สวัสดีค่ะ เปรียว Senior Machine Learning Engineer ปัจจุบันร่วมงานกับเซอร์ทิสมา 3 ปีกว่าแล้ว และคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะที่นี่ทำให้เปรียวได้ทำงานท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีความหลากหลาย (Diversity) เช่น ร่วมงานกับเพื่อน ๆ จากหลากหลายเชื้อชาติ และมีความแตกต่างทางไอเดียและความคิด เปรียวได้เรียนรู้จากทักษะความเก่งของแต่ละคน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เปรียวได้พัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นรอบด้าน

สิ่งที่ได้จากการดำน้ำ ในมุมมองของเปรียว Senior MLE ที่เซอร์ทิส

นอกจากนี้เซอร์ทิสยังมีสวัสดิการที่สนับสนุนการเรียนรู้อย่าง Learning Support ที่เปิดโอกาสให้ชาว Sertizens ลงคอร์สเรียนอะไรก็ได้ที่ตัวเองสนใจ ประกอบกับวันลาพักร้อนจำนวนมากต่อปี สองสิ่งนี้เองที่ทำให้เปรียวได้ทำงานพัฒนาตัวเองควบคู่ไปกับการได้ทำในสิ่งชอบในเวลาเดียวกัน อย่างการดำน้ำ เปรียวเลยมี Work-Life Balance ที่ดีในฐานะพนักงานคนหนึ่งเลยค่ะ

เล่าจุดเริ่มต้นการดำน้ำให้เราฟังกันสักนิด

เริ่มต้นจริง ๆ เลย เปรียวแค่อยากจะหาอะไรใหม่ ๆ ทำระหว่างรอเปิดภาคเรียนการศึกษาปริญญาโท แต่เมื่อได้ลองดำน้ำครั้งแรกก็ติดใจเลย ชีวิตใต้น้ำมันดีมาก ๆ เราไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ไม่มีความวุ่นวาย มีแต่ความเงียบสงบ คงเหมือนความรู้สึกตอนนั่งสมาธิ (ซึ่งเปรียวไม่ถนัดนั่งสมาธิสักเท่าไหร่) รู้ตัวอีกทีก็หลงรักการดำน้ำไปแล้ว

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการดำน้ำและนำไปปรับใช้กับการทำงานได้

อย่างแรกเลยคือ แค่คุณรู้สึกกลัวบางสิ่ง ไม่ได้แปลว่าคุณเป็นคนอ่อนแอ แต่มันช่วยให้คุณระวังตัวมากขึ้นในทุกก้าวที่จะเดิน อีกสิ่งที่ได้เรียนรู้คือ การนำสิ่งที่คนอื่นพัฒนาจนสำเร็จแล้วมาใช้เป็นเรื่องที่ดี คำพูดนี้ใช้ได้กับทั้งการดำน้ำและการพัฒนาซอฟต์แวร์ เช่น ในการดำน้ำ คุณสามารถดำน้ำได้โดยไม่ใช้ Dive Computer (คอมพิวเตอร์คำนวณเพื่อการดำน้ำ) และเชื่อในการคำนวณตัวเลขต่าง ๆ ของตัวเองได้ แต่ในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปมาก การใช้ Dive Computer จึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าทั้งการประหยัดเวลาและความปลอดภัยของนักดำน้ำเอง เช่นเดียวกับการทำงานสายแมชชีนเลิร์นนิง คุณสามารถพัฒนาโมเดลได้เองตั้งแต่จุดเริ่มต้น แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราใช้ Framework และ ซอฟต์แวร์จาก Open Source ที่ผ่านการทดสอบการใช้งานจากหลาย ๆ ล้านคนมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับงานของเราให้ได้มากที่สุด และสิ่งสุดท้ายที่ได้จากการดำน้ำคือ ความใจเย็น ช้า ๆ ค่อย ๆ ไป จะช่วยให้คุณมีสติมากขึ้น

มีวิธีจัดการกับ Work-Life Balance ในฐานะ Sertizen อย่างไรบ้าง

ปกติเปรียวจะวางแผนทริปล่วงหน้าไว้ตลอดทั้งปีและกระจายวันลาเพื่อใช้ให้หมด ถึงแม้ว่าเซอร์ทิสจะมีนโยบายคืนเงินวันลาพักร้อนที่เหลือให้ก็ตาม เปรียวเชื่อว่า การหยุดพักร้อนคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราสร้างบาลานซ์ที่ดีทั้งการทำงาน การท่องเที่ยว การไปทำสิ่งที่สนใจ และโดยเฉพาะการดำน้ำ

ที่เซอร์ทิสมีสวัสดิการสนับสนุนการเรียนรู้ที่เปิดกว้าง ซึ่งพนักงานแต่ละคนสามารถเลือกเรียนในสิ่งที่เกี่ยวหรือไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานก็ได้ เปรียวเลยใช้สวัสดิการนี้ไปลงคอร์สเรียนดำน้ำในหลาย ๆ ด้าน เช่น การศึกษาเกี่ยวกับการตรวจสอบระบบนิเวศน์ (Ecological Monitoring) ทากทะเล (Sea Slug) ก๊าซไนตร็อกซ์ (Nitrox) การกู้ภัย (Rescue) เป็นต้น ซึ่งช่วยให้เปรียวได้รับความรู้ใหม่ ๆ จากกิจกรรมที่ชอบแบบเนิร์ด ๆ ในทางของตัวเอง และยังช่วยให้การดำน้ำสนุกขึ้นไปอีกด้วย